ก่อนจะทำความ รู้จัก qr code สินค้า เคยสังเกตกันใช่หรือไม่

เมื่อเวลาเลือกซื้อสินค้าตามห้าง ร้านค้า หรือร้านสะดวกซื้อ แล้วพนักงานเอาสินค้าชิ้นที่เลือกซื้อไปยิงกับเครื่องอะไรซักอย่าง โดยสิ่งที่สังเกตได้คือ จะมีสติ๊กเกอร์สีขาวลายแถบดำเรียงกันเป็นแท่งตรงยาว หลายๆ แท่ง ติดไว้ที่สินค้าอยู่เสมอ ซึ่งก่อนที่จะมา รู้จัก qr code สินค้า ยุคก่อนเรียกมันว่า “บาร์โค้ด” นั่นคือสิ่งที่ทุกคนได้ยินได้ฟัง และรู้จักกันดีในปัจจุบัน

แต่เคยสงสัยไหมว่าทำไมจึงต้องใช้บาร์โค้ดติดตามฉลาก หรือติดบนสินค้าบรรจุภัณฑ์ ก่อนอื่นขอทำความรู้จักกับ ความเป็นมาของ บาร์โค้ดกันก่อน

• บาร์โค้ด (Barcode) มีความเป็นมาอย่างไร

ปี ค.ศ.1932 ที่มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด มีนักศึกษากลุ่มหนึ่ง นำเสนอแนวคิดในการใช้บัตรเจาะรูเป็นตัวกำหนดรหัสของสินค้าเพื่อให้ลูกค้าสั่งซื้อของ เมื่อลูกค้านำบัตรมาเข้าเครื่องอ่าน (บ้านเรามักเรียกว่ายิงรหัส) ระบบเครื่องยิงและโปรแกรมที่ทำงานอยู่จะสามารถดึงข้อมูลสินค้า จำนวนสินค้าออกจากคลังสินค้า พร้อมออกใบเสร็จและตัดสต็อกสินค้า

หลังจากนั้นใน ปี ค.ศ.1948 ได้มีการพยายามปรับปรุงระบบการจัดเก็บและอ่านข้อมูลสินค้าแบบอัตโนมัติระหว่างการชำระเงินเพื่อทำให้ร้านค้ามีความสะดวกมากยิ่งขึ้น แต่ในยุคแรกนั้นบาร์โค้ดยังไม่ได้มีการออกแบบให้ลักษณะแท่งตรงแบบปัจจุบัน จนถึง ปี ค.ศ.1974 ถึงจะได้มีการพัฒนาระบบบาร์โค้ดและมีการผลิตเครื่องสำหรับอ่านและแสกนบาร์โค้ดสำเร็จเป็นครั้งแรกในโลก

หลังจากมีการเปลี่ยนแปลง ปรับปรุงแก้ไข บาร์โค้ดจากอดีตจนในปัจจุบันกลายบาร์โค้ดเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงนิยมใช้งานกันอย่างแพร่หลายในทางธุรกิจ ปัจจุบันบาร์โค้ดถือเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ถูกออกแบบทั้งรูปแบบและความสามารถในการเก็บข้อมูล  ใช้กันทั่วไปในสินค้าที่วางจำหน่ายตามห้างร้านทั่วโลก

โดยบาร์โค้ด (Barcode) แปลตามตัวในภาษาไทยเรียกว่า รหัสแท่ง แทนข้อมูลที่เป็นรหัสเลขฐานสองในรูปแบบของเส้นแถบสีดำและสีขาวสลับกันหลาย ๆ เส้นในแนวตั้ง สามารถ สแกนโค้ดสินค้า อ่านข้อมูลจากแถบบาร์โค้ดได้รวดเร็ว เพื่อนำไปจัดเก็บหรือตรวจสอบข้อมูลสินค้า ข้อมูลนักเรียน ข้อมูลรถยนต์ หรือข้อมูลผลิตภัณฑ์มากมาย มีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐานสากลที่นิยมใช้กันทั่วโลก

ส่วนสำคัญที่ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน โดยจะขาดเสียไม่ได้นั่นคือ บาร์โค้ดจะต้องใช้ทำงานควบคู่กับเครื่องอ่าน เครื่องอ่านบาร์โค้ด (Scanner) บางทีเรียกว่าเครื่องยิงบาร์โค้ด ช่วยในการอ่านข้อมูลได้อย่างถูกต้อง เครื่องสแกนบาร์โค้ดใช้เทคโนโลยีการสแกนที่หลากหลายเช่นเลเซอร์ CCD เทคโนโลยีถัดมาเรียกว่า CCD (Charge Coupled Device readers) ตากล้องบางคนอาจจะคุ้นเคยได้ยินกันมาบ้างในเทคโนโลยีที่ใช้ในกล้องถ่ายรูป

แต่ CCD readers จะมีเซนเซอร์สำหรับรับการสะท้อนแสงเป็นแนวยาว โดยทำการสแกนได้กว้างสุดตามความยาวของตัว Scanner

• เข้าสู่ยุค QR Code

QR Code เป็นบาร์โค้ดแบบ 2 มิติ ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ใช้งานกันอย่างแพร่หลาย ผู้คน เจ้าของแบรนด์ นิยมนำมาใช้กันอย่างมา จะสังเกตได้ตั้งแต่ QR Code สำหรับเข้าเว็บไซต์ ป้ายโฆษณาสินค้าป้ายชื่อร้านค้า ราคาบรรจุภัณฑ์ หรือบ่งบอกข้อมูลบุคคลบนนามบัตร เครื่องสำอาง ตลอดไปจนถึงบนถุงขนมขบเคี้ยว

หรืออุปกรณ์ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ มากมายโดยต้นกำเนิดของคิวอาร์โค้ดมาจากประเทศญี่ปุ่น คำว่า QR มาจาก Quick Response ให้ความหมายการตอบสนองที่รวดเร็วเนื่องจากการใช้งานสามารถนำโทรศัพท์มือถือที่มีกล้องถ่ายภาพ หรือสมาร์ทโฟน แท็บเลต ที่ติดตั้งแอพสำหรับถอดรหัสและ รู้จัก qr code สินค้า นำมาสแกนได้ทันที

ปัจจุบันสามารถเปิดแอพพลิเคชั่นไลน์ (Line) ในเมนูเพิ่มเพื่อนยังมีฟังก์ชั่นนี้ใช้งานได้อีก และ QR Code  มีสามารถในการเก็บข้อมูลหรือความจุได้มากกว่าเมื่อเทียบกับบาร์โค้ดที่แบบแรกในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา จะมีธุรกิจที่ให้ความสำคัญและนำ คิวอาร์โค้ดมาใช้งานที่เห็นเป็นรูปธรรมอีกธุรกิจหนึ่ง ที่ประเด็นที่ถูกพูดถึงมากนั่นคือ ธนาคาร

โดยธนาคารได้ออกแบบ การชำระเงินด้วย QR Code หลายธนาคารในประเทศพร้อมใจกันหันมาใช้ QR Payment ที่มีที่มาจาก QR CODE 2 มิติ เพื่อเปิดให้ชำระเงินผ่านแอปพลิเคชั่นทางการเงินของธนาคาร เพื่อเพิ่มในเรื่องของความสะดวก สบายให้กับร้านค้า และลูกค้าที่มีกิจกรรมทางการเงินร่วมกัน

หลายร้านค้าที่อยู่ในตัวเมืองเริ่มเปิดให้จ่ายเงินผ่าน QR Code ได้แล้ว เพื่อลดการใช้เงินสดของผู้คน และกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่าย และที่สำคัญ QR Code แบบนี้ทำงานผ่านแอพพลิเคชั่น จึงช่วยลดเวลาและต้นทุนที่จากเดิมที่ผู้บริโภคต้องเดินไปกดเงินสดจากตู้ ATM เพื่อนำเงินมาซื้อหรือชำระค่าสินค้า เมื่อร้านค้าได้รับเงินแล้วต้องนำเงินไปฝากธนาคารอีกทอดหนึ่งนั่นเอง

• QR code กับเว็บไซต์

ที่เห็นได้ชัดเจนอีกอย่างหนึ่งคือ เว็บไซต์ที่มีชื่อยาว ๆ และบางชื่อเป็นชื่อที่จำยาก หรือมีคำที่สะกดอยาก ปัจจุบันจึงเห็นเจ้าของเว็บไซต์หรือเจ้าของแบรนด์ธุรกิจที่มีเว็บไซต์นำ URL ของเว็บไซต์มาสร้าง คิวอาร์โค้ด ไว้ให้ลูกค้าหรือผู้บริโภคที่สนใจเปิดมือถือสแกนเพื่อเข้าไปดูหรืออ่านเนื้อหาในเว็บไซต์ได้ทันที โดยที่ไม่จำเป็นต้องพิมพ์ชื่อเว็บอีก สามารถเข้าชมเว็บไซต์ได้โดยไม่ต้องพิมพ์กันอีกต่อไป

• ญี่ปุ่นต้นตำรับ QR Code

ในประเทศญี่ปุ่นเอง การใช้งาน QR code มีความหลากหลายมาก เนื่องจากคนประเทศญี่ปุ่นมักมีความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบและประดิษฐ์สิ่งต่าง ๆ อยู่แล้ว ลองมาติดตามกันดูว่า ที่ญี่ปุ่นเขาใช้ประโยชน์จาก QR Code อย่างไรกันบ้าง

• เป็นแหล่งข้อมูลไฮเทค

จากข้อมูลวิธีใช้ที่เป็นกระดาษ สู้การเป็นแหล่งวิธีแสดงข้อมูลที่ไฮเทค เนื่องจาก คิวอาร์โค้ดสามารถเก็บข้อมูล sms text หรือข้อความได้มาก และด้วยพื้นที่ ที่จำกัดของตัว packageing เจ้าของแบรนด์จึงมักใส่วิธีใช้ หรือลิงค์ VDO Youtube สำหรับสาธิตการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ขายนั้น ๆ ด้วย

นอกจากจะแสดงข้อความแล้ว หากข้อมูลที่ต้องการแสดงมีมาก และมีรูปภาพด้วย ผู้ผลิตอาจทำเป็นเว็บเพจ และนำ url ของเว็บที่มีข้อมูลที่ต้องการให้ลูกค้าดูมาทำเป็นคิวอาร์โค้ดได้อีกด้วย

• ดึงดูดความสนใจของผู้คน

ในยุคที่ทุกคนมีมือถือติดตัวกันตลอดเวลา และเรียนรู้การใช้งาน QR Code กันเป็นแล้ว มักจะสงสัยว่า QR Code ที่เห็นมีข้อมูลอะไรอยู่กันแน่ ดังนั้นจึงมีบางคนพิมพ์ QR code ติดที่หน้าอกเสื้อบ้าง ที่ด้านหลังของเป้สะพายบ้าง สแกนโค้ดสินค้า บ้าง เพื่อสร้างจุดสนใจแก่ผู้ที่พบเห็น เมื่อเห็นแล้วก็อยากจะหยิบมือถือขึ้นมาเปิดแอพพลิเคชั่นแล้วทำการสแกน เพื่อเข้าไปอ่านไปชมไปดูเนื้อหาที่ซ่อนอยู่นั่นเอง

โดยทั่วไปจะเป็น QR Code ของบริษัทเกม หรือพวกบริการต่าง ๆ ที่ต้องการโปรโมทให้ทุกคนรับรู้และเข้าถึงได้ง่าย

• ช่วยประหยัดเวลา

มีหลากหลายอย่างที่นำ QR Code มาใช้ มาช่วยให้ลดขั้นตอนการทำงานบางอย่างเช่น การเข้าใช้งาน WiFi ที่บางสถานที่กว่าที่จะเข้าใช้งานอินเตอร์เน็ตได้จะต้องมีการลงทะเบียน MAC Address หรือมีการกรอก UserName และ Password ก่อนเข้าใช้งาน

เพื่อจุดประสงค์ในการจัดสรรความเร็วของอินเตอร์เน็ตให้เท่า ๆ กันเพื่อเก็บ Log file สำหรับผู้เข้าใช้งานได้มีการนำเอา QR Code ที่มีกรอก URL Username Password ไว้แล้ว และนำ URL นั้นไปสร้าง QR Code ที่

ปัจจุบันสามารถสร้างได้เองโดยทั่วไป แล้วนำมาติด พิมพ์แจกเป็นคูปองสำหรับลูกค้า ตามสนามบิน ร้านกาแฟแม้กระทั่งการชำระเงินแบบที่ประเทศไทยกำลังใช้งานกันอยู่นี้ที่ประเทศญี่ปุ่นก็มีการใช้งานกัน

เช่นตัวอย่างการจ่ายค่า taxi ก็มีการจ่ายเงินกันผ่านระบบ QR Code เพียงแค่นี้ลูกค้าก็สามารถจ่ายเงินได้แล้วให้กับคนขับแท็กซี่ได้แล้ว ซึ่งระบบเหล่านี้ได้นำมาพัฒนาประยุกต์ใช้และขยายรูปแบบการใช้งาน ช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าทั้งรายใหญ่ รายย่อยทำให้ที่ รู้จัก qr code สินค้า และชำระเงินสามารถขยายฐานลูกค้าได้

เพราะลูกค้าจะไม่ต้องพกเงินสด เพราะบางครั้งลูกค้าพกเงินติดตัวมาไม่พอ หรือบางคนไม่ชอบพกเงินสด ทำให้สามารถชำระหรือจ่ายเงินได้ทันที ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย สะดวก ปลอดภัย และรวดเร็วเป็นอย่างมาก

ในยุคที่มีเว็บไซต์หรือเครื่องมือช่วยให้ทุกคนสามารถสร้าง QR Code ใช้งานได้เอง แถมฟรีอีกต่างหาก คิวอาร์โค้ดอาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของเครื่องมือที่จะช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลรายละเอียดสินค้าและบริการได้ง่าย และ Mr.True มาประยุกต์นำมาเป็น qr code กันปลอมสินค้า ได้อย่างไร โปรดติดตามในบทความตอนต่อไป หรือสนใจติดต่อสอบถามการผลิตได้ที่ facebook  Mr.True